เนื่องจากอุตสาหกรรมกระดาษและการพิมพ์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ จึงเป็นเรื่องยากที่จะกล่าวด้วยความมั่นใจว่ามีอะไรรออยู่ในอนาคต ในขณะที่ลูกค้างานพิมพ์ต้องการความมั่นใจมากขึ้นว่าเนื้อหาของพวกเขาจะทันเหตุการณ์ (ความต้องการงานพิมพ์ที่มีระยะเวลาสั้นลงจะทำให้กำไรลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง) แต่ความต้องการที่ลดลงในงานพิมพ์โฆษณาไม่ได้แสดงสัญญาณที่ช้าลงเลย ในขณะเดียวกัน ปริมาณงานพิมพ์ระบบดิจิทัลพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะธุรกิจโลกเคลื่อนไหวในอัตราที่รวดเร็วจึงให้ความสำคัญกับเวลาพิมพ์ที่สั้นลง จำนวนพิมพ์ที่น้อยลง และในราคาที่ประหยัดยิ่งขึ้น
สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมการผลิตกระดาษและการพิมพ์ออฟเซ็ท
เทคโนโลยี
ในขณะที่อุตสาหกรรมการพิมพ์เพื่อการพาณิชย์ได้ปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป เรายังคงค้นหาโซลูชันวัสดุติดกาวแบบใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยโรงพิมพ์ให้สามารถแข่งขันได้ต่อไป
เทปกาวของเราจะช่วยให้โรงพิมพ์ออฟเซ็ทคงความสามารถในการแข่งขันได้ต่อไป
การจะรักษาความสามารถแข่งขันได้ในตลาดการพิมพ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงสูง คุณต้องมีพันธมิตรที่เชื่อถือได้และมีประสบการณ์มาแล้วหลายทศวรรษในตลาดการพิมพ์ออฟเซ็ท ที่ tesa เราลงทุนอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยีเทปแบบใหม่ที่ช่วยลูกค้าของเราให้สามารถควบคุมต้นทุนได้ ขณะที่เพิ่มคุณภาพงานพิมพ์และประสิทธิภาพในกระบวนการพิมพ์ให้ดีขึ้น ด้วยเหตุนี้คุณจึงสามารถไว้วางใจในเครือข่ายทั่วโลกของผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อกระดาษที่เชื่อถือได้ของเรา
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างเพียงสองตัวอย่างของนวัตกรรมที่ได้รับการพิสูจน์แล้วของเราในอุตสาหกรรมการพิมพ์
tesa EasySplice® เป็นเทปต่อกระดาษแบบเส้นตรงรุ่นแรกของโลก
ด้วยการประดิษฐ์คิดค้น tesa EasySplice® นี้ขึ้นมา เราได้สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในการต่อกระดาษขณะเดินเครื่อง (Flying Splice)ในอุตสาหกรรมกระดาษและการพิมพ์ ตั้งแต่นั้นมา เทปต่อกระดาษอเนกประสงค์ที่ได้รับการรับรองจากทั่วโลกและได้รับรางวัลของเราได้กำหนดเกณฑ์มาตรฐานให้กับผู้ผลิตกระดาษ ผู้ประกอบการแปรรูป และโรงพิมพ์
การต่อกระดาษที่ไม่ได้ผลสามารถทำให้เกิดการสูญเสียเงินและเวลาอย่างสำคัญ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ tesa EasySplice® มอบความปลอดภัยระดับสูงสุดในการต่อกระดาษเข้ากันที่ความเร็วสูงสุด
ส่วนหนึ่งในแรงขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องของเราที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และช่วยลูกค้าของเราให้เอาชนะความท้าทายของเทปกาวและการนำไปใช้ tesa EasySplice® สีส้มที่ได้ัรับการปรับปรุงแล้วของเราสามารถต้านทานสภาวะแวดล้อมที่หลากหลายที่อาจมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประสิทธิภาพการต่อกระดาษ โดยให้ความเหนียวสูงกว่า 30% และความทนทานสูงกว่า 50% ของมาตรฐานในตลาด และความไว้วางใจในการต่อกระดาษก็สูงกว่าในกระดาษที่ระดับคุณภาพต่าง ๆ และยังเหมาะกับการใช้บนเครื่องจักรแบบไฮบริด รวมทั้งบนหนังสือพิมพ์ การเซ็ตตัวด้วยความร้อน และการพิมพ์แบบแม่พิมพ์ร่องลึกหรือโรโทกราวัวร์ (Rotogravure)
เทคโนโลยี tesa CaRes® ได้พัฒนาประสิทธิภาพของเทปที่สามารถรีไซเคิลไปพร้อมกับกระดาษได้ (Repulpable Tape)
การใช้แคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) ที่เพิ่มขึ้นได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความท้าทายอย่างสำคัญสำหรับ Repulpable Tape เพราะแคลเซียมอิออน (Calcium Ions) จะเคลื่อนย้ายเข้าไปในมวลของกาวเมื่อเวลาผ่านไป กาวที่แข็งตัวจะลดการยึดเกาะลงอย่างมาก โรงงานกระดาษที่ใช้ CaCO3 จะเสี่ยงต่อทั้งการปนเปื้อนในกระบวนการอันเนื่องมาจากเทปที่ไม่สามารถรีไซเคิลไปพร้อมกับกระดาษได้ (non-repulpable tapes) หรือกระดาษที่ต่อกันหลุดออกอันเนื่องมาจาก CaCO3
เทปที่มีเทคโนโลยี tesa CaRes® ของเราจะรักษาคุณสมบัติต่าง ๆ ให้มีความสมดุลจนกระทั่งนำม้วนกระดาษไปผ่านกระบวนการ ซึ่งหมายความว่ากาวจะยังคงอ่อนตัวและยืดหยุ่นได้ยาวนานกว่า ภายใต้สภาพภูมิอากาศที่หลากหลายกว่า เช่น ความชื้นสูง และระดับอุณหภูมิแบบสุดโต่ง ผลลัพธ์ที่ได้ เทปต้านทานแคลเซียมที่สามารถรีไซเคิลไปพร้อมกับกระดาษได้อย่างเต็มรูปแบบสำหรับการต่อกระดาษถาวรที่วางใจได้และใช้ได้ง่าย
โอกาสใหม่ ๆ สำหรับการเติบโต
โรงพิมพ์ทุกแห่งไม่ว่าจะให้บริการอยู่ในตลาดใด ต่างรู้ว่าการจะประสบความสำเร็จในระยะยาวได้นั้น พวกเขาต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่องให้เข้ากับสภาวะตลาดและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว เราจะช่วยโรงพิมพ์ในการค้นพบความสามารถในการทำกำไรและโอกาสอย่างต่อเนื่อง และเรามองหาวิธีการใหม่ ๆ อยู่เสมอเพื่อสนับสนุนโรงพิมพ์ในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงนี้
โอกาสหนึ่งของการเติบโตสำหรับโรงพิมพ์ออฟเซ็ทคือการพิมพ์แค็ตตาล็อก แม้การค้าปลีกออนไลน์และการตลาดแบบดิจิทัลจะเพิ่มสูงขึ้น แต่แค็ตตาล็อกแบบเป็นรูปเล่มไม่เพียงแค่อยู่รอดเท่านั้นแต่ยังฟื้นคืนชีพอีกด้วย เล่มแค็ตตาล็อกที่สวยงามของแบรนด์ระดับโลกอย่าง IKEA, L.L. Bean และ H&M ได้กลายเป็นคุณสมบัติมาตรฐานของกลยุทธ์ทางการตลาด ตัวอย่างเช่นแค็ตตาล็อกของ IKEA ถือเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญของบริษัทค้าปลีกสัญชาติสวีเดนรายนี้ ที่ใช้งบประมาณการตลาดรายปีประมาณ 70% ไปกับแค็ตตาล็อกเพียงอย่างเดียว มีการผลิตเป็น 38 ฉบับที่แตกต่างกันใน 17 ภาษาเพื่อแจกจ่ายไปยัง 28 ประเทศ
ในขณะที่อุตสาหกรรมการพิมพ์ค่อย ๆ พัฒนาต่อไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอน: โรงพิมพ์ต้องน้อมรับนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันไว้ เรียนรู้เพิ่มเติมถึงวิธีที่เราสามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในกระบวนการ กรุณาติดต่อตัวแทนขาย tesa ในพื้นที่ของคุณโดยตรง หรือใช้แบบฟอร์มการติดต่อที่ด้านล่างนี้ของเรา